ใครสร้างโลกนี้ ใครสร้างเรา ใครออกแบบจักรวาล เป็นคำถามที่ต้องการคำตอบ บางคนบอกเกิดโดยบังเอิญ เกิดจากอุบัติเหตุ หลายคนต่างก็พยายามค้นหาคำตอบ
นิวตัน (Newton) ได้มีเพื่อนผู้เชื่อใน อเทวนิยม มาพักที่บ้าน เพื่อนคนนี้รู้สึกตื่นเต้นกับแบบจำลองของระบบสุริยะที่บ้านของนิวตัน เขาได้ลองหมุนด้ามของแบบจำลองทำให้ดาวเคราะห์เคลื่อนโคจรรอบดวงอาทิตย์ เขารู้สึกตื่นเต้นมาก และถามนิวต้นว่า “ใครเป็นคนออกแบบจำลองนี้” นิวตันตอบ “ไม่มีใคร” คำตอบของนิวตันทำให้เพื่อนคนนี้ฉงนสนเท่ห์มาก จึงถามอีกว่า “จะเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร ไม่มีใครสร้าง” นิวตันจึงตอบว่า “ถ้าระบบจำลองต้องได้รับการออกแบบและถูกสร้างขึ้นแล้ว ระบบสุริยจริงๆ จะเกิดขึ้นจากการชนกันแบบสุ่มของอะตอมโดยไม่มีผู้ออกแบบและผู้สร้างได้อย่างไร” คำตอบนี้ทำให้เพื่อนของนิวตันอึ้งไป ทันใดนั้นเขาก็เกิดความเข้าใจและเปลี่ยนเป็นผู้ที่นับถือพระเจ้า
พระคัมภีร์มีคำตอบอย่างชัดเจนว่าผู้ที่สร้างโลกนี้ และจักรวาลนี้คือ พระเจ้า ลองดูตัวอย่งจากนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งที่ได้ตระหนักถึงความมหัศจรรย์ในการทรงสร้างของพระเจ้า
ถ้าเราคิดที่จะเป็นผู้ทำคลอดให้กับสัตว์ เราจะพบว่ามันซับซ้อนเกินความเข้าใจ ยุ่งยากที่จะทำด้วยมือของนักวิทยาศาสตร์ แต่ทำไมสัตว์ทั้งหลายสามารถดำรงอยู่บนโลกได้อย่างน่ามหัศจรรย์ ใครเป็นคนกำหนดให้มันทำได้อย่างน่าทึ่ง
หลังจากได้ลองทำการทดลองผ่าตัดทำคลอดแม่หนู ซึ่งผลได้เห็นว่าเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะทำให้ทุกตัวรอดด้วยการผ่าตัด ความยากในการแกะถุงหุ้มตัวอ่อนที่บางและติดกับตัวหนู การตัดสายสะดือก็เล็กจนต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ ถ้าตัดอาจทำให้เสียเลือดมาก การทำงานต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก
ต่อมาอีกวันหนึ่ง ทีมผู้วิจัยได้ลองเฝ้าสังเกตการคลอดแบบธรรมชาติของแม่หนู เจ้าหน้าที่ห้องทดลองตื่นเต้นและวิตกกังวลมาก พวกเขาต้องการคลุมกรงหนูด้วยผ้าป้องกันอากาศหนาวเย็น และเปลี่ยนวัสดุในกรงให้ที่นุ่มขึ้น แต่นักวิทยาศาตร์ชื่อ ลี เชนไม่สนใจฟังข้อแนะนำเหล่านี้ เพราะเขาคิดว่าถ้าสภาพแวดล้อมในห้องทดลองแย่เกินไป หนูที่คลอดลูกในป่าจะทำได้อย่างไร
แม่หนูเริ่มเลียตัวเองเพื่อเตรียมตัวคลอดลูก ลูกตัวแรกคลอดโดยแม่หนูใช้ปากช่วยดึง และอุ้มลูกด้วยอุ้งเล็บด้านหน้าพร้อมเลียทำความสะอาดลูกหนูจนสะอาดปราศจากรอยเลือด หลังจากนั้นแม่หนูวางลูกไว้บนเศษไม้และพัก 10นาทีต่อมาลูกหนูตัวที่สองก็คลอด แม่หนูก็ปฏิบัติเช่นเดิมจนคลอดครบหมด ในระหว่างที่แม่หนูพักเพื่อรอคลอดตัวถัดไป ลี เชนพบว่าแม่หนูจะกินรก ถุงหุ้มตัวอ่อน และเลียเลือดออกจากเศษไม้จนหมดเพื่อเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย
ในประเทศจีนก่อนคลอดบุตรผู้หญิงท้องจะกินไข่ต้มสุกหลายๆ ฟองเพื่อเพิ่มพลังงาน ในประเทศอเมริกาผู้หญิงใกล้คลอดจะไม่กินอาหารเพื่อให้ระบบย่อยอาหารว่างและให้ช่องคลอดสะอาด แต่จะได้รับสารอาหารทางหลอดเลือดดำเพื่อให้พลังงาน ไม่ว่าจะใช้วิธีใดก็ตามผู้หญิงใกล้คลอดต้องได้รับพลังงานสำหรับการคลอดลูก เป็นที่น่าอัศจรรย์มากที่แม่หนูก็รู้วิธีการเพิ่มพลังงานให้ตัวเองขณะคลอดลูก “ใครเป็นผู้สอนแม่หนู?” สิ่งที่ไม่น่าเชื่ออีกก็คืออุ้งเล็บที่แหลมคมและฟันมิได้ทำอันตรายต่อผิวนุ่มๆของลูกหนูเลย
ประมาณหนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นแม่หนูก็ได้ดูแลลูกหนูแรกคลอดทุกตัว ลูกหนูทุกตัวมีความสุขและแข็งแรงดี หลังจากที่ดูการทดลองแล้ว ลี เชนเข้าใจขบวนการคลอดลูกหนูมากขึ้น แต่ยังมีความสงสัยเกี่ยวกับสายสะดือของลูกหนูว่าจะเป็นอย่างไร เนื่องจากมีขนาดเล็กมากมองด้วยตาเปล่าแทบไม่เห็น เขาจึงส่องดูลูกหนูด้วยกล้องจุลทัศน์ ช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ สายสะดือถูกตัดที่บริเวณสะดือและมีเพียงรอยเลือดเล็กๆ เท่านั้น
รูปแบบพฤติกรรมของสัตว์หรือที่เรียกว่าสัญชาติญาณ เช่นการอยู่รวมกันเป็นกลุ่มของผึ้ง การอพยพของนกและปลา ในอดีต ลี เชนไม่เข้าใจว่าสัญชาติญาณเหล่านี้มาจากไหน แต่เดี๋ยวนี้เข้าใจแล้ว
พระคัมภีร์กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้างสิ่งมีชีวิตทุกชนิดและพระองค์ทรงเห็นว่าทุกอย่างดี (ปฐมกาล 1) หรืออีกนัยหนึ่งคือ พระเจ้าให้ชีวิตแก่สิ่งที่พระองค์สร้างรวมทั้งกลไกในการเอาชีวิตรอดซึ่งก็คือสัญชาติญาณนั่นเอง
ก่อนที่จะรู้จักพระเจ้า ลี เชนคิดว่าสิ่งอัศจรรย์เหล่านี้เป็นผลมาจากการจัดอันดับของธรรมชาติ จริงๆ แล้วการจัดอันดับทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติหรือสังคมถูกสร้างขึ้นและดูแลโดยผู้มีสิทธิอำนาจ ปัจจุบันมีนักวิทยาศาสตร์จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เชื่อว่าจักรวาลไม่ได้กำเนิดด้วยตัวมันเองและไม่ใช่ว่าไม่มีจุดสิ้นสุด แต่จักรวาลเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้น มีการเริ่มต้นและมีจุดจบ ดังนั้นการจัดอันดับของธรรมชาติในจักรวาลย่อมเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้น แล้วใครเป็นผู้สร้างการจัดอันดับเหล่านี้? ถ้าเราเปิดใจของเราออก เราจะสามารถพบเห็นพระเจ้าได้อย่างง่ายดาย