จากใจศิษยาภิบาล
ช่วงนี้ในคริสตจักรพันธกิจเชียงใหม่ พระเจ้าได้ทรงนำให้ผมพูดถึงเรื่อง “สาวกพระคริสต์” ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากในชีวิตการเป็นคริสเตียนของเรา เพื่อนมิชชั่นนารีต่างประเทศหลาย ๆ คนของผมได้ถามผมว่า “เรื่องของพระเยซูคริสต์นั้นได้เข้ามาในประเทศไทยมากกว่า 180 ปี แต่ทำไมจำนวนของคริสเตียนไทยจึงน้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์”
พี่น้องครับ ท่านตอบได้หรือไม่ครับ?
สำหรับผม คำตอบคือ “เพราะเรามีแต่ผู้รับเชื่อในพระเยซูคริสต์ที่ไม่ได้พัฒนาไปเป็นสาวกของพระคริสต์”
ผู้รับเชื่อในพระเยซูคริสต์เปรียบเหมือนเด็ก ๆ และอีก 10 ปีเขาก็ยังเป็นเด็กอยู่ และอีก 20,30 .....ปี เขาก็ยังเป็นเด็กอยู่อีก
พี่น้องคงจะจินตนาการออกว่า อะไรจะตามมา ถ้าครอบครัวหนึ่ง มีลูกที่เป็นเด็กตลอดไป ไม่มีผู้ใหญ่เลย
เป้าหมายของการเป็นสาวกของพระคริสต์คือการที่เขาจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในพระคริสต์
1 ทธ.1:5 แต่จุดประสงค์แห่งคำกำชับนั้นก็คือ ให้มีความรักซึ่งเกิดจากใจอันบริสุทธิ์ และจากจิตสำนึกว่าตนชอบ และจากความเชื่ออันจริงใจ
ในพระธรรมตอนนี้ อ.เปาโลได้สรุปลักษณะสำคัญของการเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณให้เราทราบ และได้ใช้คำศัพท์ว่า “จุดประสงค์แห่งคำกำชับ” มี 3 ประการด้วยกันซึ่งหมายถึงลักษณะของการเป็นผู้ใหญ่ได้แก่
1. มีความรักจากใจอันบริสุทธิ์
2. มีจิตสำนึกที่ถูกต้อง
3. มีความเชื่ออันจริงใจ
หลายคนเข้าใจผิดคิดว่า เป็นผู้ใหญ่ในพระคริสต์คือ รู้พระคัมภีร์มาก ๆ ท่องพระคัมภีร์เก่ง รับใช้เก่ง ซึ่งไม่จริงเลย การรู้พระคัมภีร์ซึ่งเป็นความจริงของพระเจ้านั้นเป็นขั้นแรกของการเป็นผู้ใหญ่ แต่เขาต้องประยุกต์ใช้ความจริงนั้นด้วย จนกระทั่ง 3 ประการของ “จุดประสงค์แห่งคำกำชับ” นั้นกลายเป็นชีวิตของเขา
พี่น้องครับ ในการเฝ้าเดี่ยวของพี่น้องนั้น ให้เราศึกษาความจริงของพระเจ้า รู้ความจริงของพระองค์ ภาวนาความจริงของพระองค์ และประยุกต์ใช้ความจริงนี้จนกระทั่ง “จุดประสงค์แห่งคำกำชับ” ที่มีลักษณะ 3 ประการนั้นเป็นจริงในชีวิตของเรา เพื่อเราจะเป็นสาวกพระคริสต์ที่เป็นผู้ใหญ่ในพระคริสต์นะครับ
พระเจ้าทรงอวยพระพร
นพ. เกรียงศักดิ์ วรรธนาศิรกุล
ศิษยาภิบาล คริสตจักรพันธกิจเชียงใหม่