จากใจศิษยาภิบาล
มาร์ติน ลูเธอร์ บาทหลวงผู้เริ่มต้นประกาศว่า มนุษย์ได้รับความรอดโดยพระคุณเพราะความเชื่อนั้นได้กล่าวไว้ว่า Were it not for tribulations, I would not have understood the scriptures หากไม่ใช่เพราะการข่มเหงแล้วละก็ ข้าพเจ้าคงไม่สามารถเข้าใจพระวจนะได้
มาร์ติน ลูเธอร์ ผู้ทำให้ความจริงของพระเจ้านั้นเป็นประจักษ์กับมนุษย์พูดเช่นนี้ มาจากประสบการณ์ที่ทุกข์ยากลำบากของท่าน แต่ท่านไม่ได้ถูกความยากลำบากนั้นคว่ำท่านลงเลย ท่านกลับได้รับพระพรผ่านความทุกข์ยากลำบากนั้น เพราะความทุกข์ยากลำบากนั้นได้มีส่วนทำให้ท่านเข้าใจพระวจนะมากขึ้น ทำไม มาร์ติน ลูเธอร์จึงสามารถยืนหยัดเช่นนั้นได้?
เพราะท่านได้รู้จักพระเจ้าที่ท่านนมัสการ
และท่านรู้จักพระเจ้าได้โดยวิธีไหน?
ในยุคสมัยของมาร์ติน ลูเธอร์นั้น ประชาชนทั่วไปไม่มีสิทธิที่จะอ่านพระวจนะของพระเจ้าได้ มีเพียงนักบวชเท่านั้นที่อ่านได้ และเพราะการที่มาร์ติน ลูเธอร์เป็นนักบวชและใช้เวลากับพระวจนะของพระเจ้าอย่างมาก จนท่านได้เห็นว่าการที่ศาสนจักรสมัยนั้นทำการขายบัตรล้างบาป เพื่อว่า คนที่อยากไปสวรรค์ต้องซื้อบัตรล้างบาปนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะพระคัมภีร์บอกไว้ว่า ความรอดนั้นมาโดยพระคุณของพระเจ้า เพราะความเชื่อของเราที่มีต่อพระเจ้าคือยอมรับพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดเท่านั้นถึงจะไปสวรรค์ได้
ท่านมีความเข้าใจและรู้พระวจนะ ท่านได้รู้จักพระเจ้าลึกซึ้งและสนิทสนม ดังนั้นเมื่อท่านเจอความยากลำบากท่านจึงยืนหยัดได้ และไม่เพียงแต่ที่ท่านยืนหยัดเท่านั้น แต่ความลำบากนั้นทำให้ท่านเข้าใจพระวจนะด้วย
โดยพระวจนะของพระเจ้า ทำให้เรารู้จักพระเจ้ามากขึ้น
โดยพระวจนะของพระเจ้า ทำให้เราสนิทสนมกับพระองค์มากขึ้น
โดยพระวจนะนั้นทำให้สามารถเผชิญกับความยากลำบากได้ และในอีกทางหนึ่งจากประสบการณ์ของมาร์ติน ลูเธอร์นั้น ความยากลำบากนั้น ทำให้ท่านเข้าใจพระวจนะมากขึ้นด้วย
พี่น้องครับ ผมหนุนใจให้เราศึกษาพระวจนะ ภาวนาพระวจนะของพระองค์อย่างสม่ำเสมอ และในวันอาทิตย์ที่ไปที่คริสตจักรนั้น ให้เรามีความตั้งใจที่จะรับพระวจนะซึ่งพระวจนะที่เรารับนี้จะเข้าไปในชีวิตของเราและเป็นชีวิต เลือดเนื้อ วิญญาณของเราจนเป็นลักษณะชีวิตของเรา เมื่อนั้นเราก็จะสามารถเผชิญความยากลำบากได้เหมือนประสบการณ์ของมาร์ติน ลูเธอร์ และในมุมกลับความยากลำบากนั้น ก็จะทำให้ท่านเข้าใจพระวจนะมากขึ้นด้วย
พระเจ้าทรงอวยพระพร
นพ. เกรียงศักดิ์ วรรธนาศิรกุล
การเฝ้าเดี่ยว
1.) การเฝ้าเดี่ยว หมายถึงการที่เราเข้าเฝ้าพระเจ้าเป็นการส่วนตัวทุกวัน โดยการ อธิษฐานพูดคุยกับพระเจ้า การอ่านพระคัมภีร์ และอาจมีการร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าด้วยก็ได้ การเฝ้าเดี่ยวนี้สำคัญมาก เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราติดสนิทกับพระเจ้าเสมอ
2.) พระเยซูคริสต์ทรงเป็นแบบอย่าง พระเยซูคริสต์ทรงใช้เวลาเช้าแต่ละวันในการเข้าเฝ้าเดี่ยวและสนทนากับพระเจ้าเป็นการส่วนตัว ดังใน มาระโก 1.35 ที่กล่าวไว้ว่า “ครั้นเวลาเช้ามืดพระองค์ได้ทรงลุกขึ้นเสด็จออกไปยังที่เปลี่ยว และทรงอธิษฐานที่นั่น”
3.) จะเฝ้าเดี่ยวอย่างไร
3.1) จัดเวลาเฉพาะ
{C}· เลือกเวลาที่ดีที่สุดที่แน่นอน ที่เราจะสงบนิ่งกับพระเจ้าได้ และมีการเตรียมตัวเช่น ถ้าเราจัดเวลาเป็นตอนเช้าทุกวัน เวลา 6.00 น. เราต้องเตรียมตัวโดยไม่นอนดึกจนทำให้เราง่วงตอนเช้าที่เฝ้าเดี่ยวนั้น
{C}· เริ่มต้นจาก 10 นาทีก่อน แล้วค่อย ๆ เพิ่มเป็น 15 นาที 20 นาที
3.2) เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมคือ
{C}· ก.) พระคริสตธรรมคัมภีร์
{C}· ข.) คู่มือเฝ้าเดี่ยว QT ประจำแต่ละเดือน
{C}· ค.) คู่มือ 365 วันกับพระบิดา
{C}· ง.) สมุดบันทึก ปากกา
ทำการเฝ้าเดี่ยวตามที่แนะนำไว้ในคู่มือเฝ้าเดี่ยว
3.3) เริ่มต้นด้วยการนมัสการพระเจ้า
3.4) อธิษฐานสั้น ๆ ขอการทรงนำและความเข้าใจ
3.5) ทบทวนและภาวนาพระวจนะของพระเจ้า
3.6) ท่องจำ ข้อพระคัมภีร์ประจำวัน
3.7) อ่านพระธรรมที่จะศึกษา ช้า ๆ และตอบคำถาม
{C}o {C}ทำความเข้าใจพระธรรมตอนนั้น
{C}o {C}พิจารณาข้อคิดพระธรรมตอนนั้น
{C}o {C}ตอบสนองพระธรรม
3.8) บันทึก สิ่งที่ได้รับจากการเฝ้าเดี่ยว
3.9) อธิษฐาน
{C}· มี 5 หัวข้อที่เราจะอธิษฐานคือ 1.) ยกย่อง [Adoration] 2.)ขอบพระคุณ [Thankgiving] 3.) ทูลขอ [Petition] 4.) วิงวอน [Intercession] 5.) สารภาพ [Confession]
{C}· 1.) ยกย่อง [Adoration]
{C}o {C}การยกย่องเป็นการสรรเสริญที่พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า(สดด.34.1 )
{C}o การสรรเสริญเป็นการที่เรา focus ไปที่พระเจ้าไม่ใช่พระราชกิจของพระองค์
{C}· 2.) การขอบพระคุณ [Thankgiving]
{C}o เป็นการขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำให้เรา (1 ธส.5.18)
{C}· 3.) การทูลขอ [Petition]
{C}o เป็นการอธิษฐานสำหรับความต้องการส่วนตัวของเรา (ยน.16.24)
{C}· 4.) วิงวอน [Intercession]
{C}o อธิษฐานสำหรับผู้อื่นและความต้องการของผู้อื่น (1 ซมอ.12.23)
{C}· 5.) สารภาพ [Confession]
{C}o สารภาพความผิดของเราและขอพระองค์ทรงยกโทษ (1ยน.1.9)
{C}· การอธิษฐานนั้น เราอาจจะอธิษฐานตามแบบอย่างของพระเยซูคริสต์จากพระธรรมมัทธิว 6.9-13 และอธิษฐานตามหัวข้อในหนังสือ “365 วันกับพระบิดา” ได้ และถ้าหัวข้อไหนที่เรารู้สึกมีภาระหรือความต้องการ ก็อาจจะขยายความด้วยตัวของเราเอง หรือแล้วแต่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงนำ
เวลานัดหมายกับพระเจ้า
เวลาเหมาะสมที่สุดสำหรับข้าพเจ้าในการเฝ้าเดี่ยวคือ
--------------------------------------------------------------------------------------------------
สถานที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเฝ้าเดี่ยวคือ
--------------------------------------------------------------------------------------------------
ข้าพเจ้าตั้งใจจะใช้เวลาเข้าเฝ้าพระเจ้าแต่ละวันประมาณ
--------------------------------------------------------------------------------------------------